วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2559

เตรียมพร้อม | ตะลุยกรุงโซล (2)

เตรียมพร้อม | ตะลุยกรุงโซล (2)
       มาแล้วๆ มาตะลุยกันต่อที่ย่านอินซาดง หลังจากที่เมื่อวานเราไปลุยย่านพระราชวังเคียงบก ย่านอินซาดงจะมีอะไรน่าสนใจบ้างนะ ตามมาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า ..

'ตะลุยที่ ย่านอินซาดง'
       อินซาดง ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมซึ่งเก่าแก่และสำคัญที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นเกาหลีไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งหากใครอยากที่จะสักผัสวัฒนธรรมและประเพณีเกาหลีแบบดั้งเดิมต้องไม่พลาดย่านนี้เลยค่ะ โดยเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์ช่วงบ่ายแก่ๆ ย่านนี้จะเป็นย่านปลอดพาหนะกลายเป็นตลาดนัดขายของเก่า เครื่องประดับ และเป็นแหล่งรวมงานศิลปะมากมาย หูวว..น่าสนใจมั้ยล่ะ บอกแล้วว่าห้ามพลาด :)


พระราชวังอึนเฮียน (Unhyeon Palace)
        อดีตเคยเป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์ในสมัยโซซอน ภายในพระราชวังประกอบด้วยพระตำหนักไม้เก่าแก่หลายหลัง บางตำหนักมีรูปปั้นจำลองในระหว่างทรงงานพร้อมเหล่าขุนนาง ข้าราชบริพาร ห้องจัดแสดงรูปปั้นของเจ้านายฝ่ายหญิงในชุดเครื่องทรงประจำราชวงศ์ที่สวยงามพร้อมนางสนมกำนัล ไปจนถึงห้องจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่ อย่างห้องปรุงอาหาร นอกจากนี้ยังมีเรือนไม้จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายข้าวของเครื่องใช้ในราชวงศ์ แม้พื้นที่ภายในพระราชวังจะไม่กว้างขวางหรือสวยงามอย่างพระราชวังอื่นๆ แต่ก็ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเกาหลี ..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


วัดโชเกซา (Jogyesa Temple)
        วัดโชเกซา แต่เดิมเรียกกันว่า "วัดฮวางกักซา" ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1910 แต่วัดนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1395 (ในตอนต้นของราชวงศ์โจซอน) และถูกเปลี่ยนชื่อเป็นวัดโซเกซาในสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
        วัดเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนใหญ่ ภายในวิหารไม้หลังใหญ่มีองค์พระประธานที่คนเกาหลีจำนวนมากนิยมไปนมัสการขอพรและประกอบพิธีต่างๆ นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมพุทธประวัติที่บรรจงวาดลงบนแผ่นที่ติดไว้รายรอบวิหารอีกด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


หอระฆังโพซินกัก (Bosingak Bell Pavilion)
        หอระฆังเก่าแก่สมัยราชวงศ์โซซอน โดยใช้ในการตีบอกเวลาสำหรับการเปิดปิดประตูเมืองทั้ง 4 ด้านนั่นเอง รวมถึงทำหน้าที่คล้ายไซเรนบอกเหตุไฟไหม้ด้วย โดยระฆังแห่งนี้มีลักษณะเป็นอาคารหลังเดียวอยู่ตรงข้ามกับ Jongno Tower สำหรับตัวระฆังหล่อจากทองสัมฤทธิ์ มีความสูงกว่า 3 เมตร ซึ่งระฆังที่แขวนอยู่นั้น และเป็นอันใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นแทนอันเก่าที่เสียหายจากเหตุไฟไหม้ ส่วนอันจริงถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


เดินเล่น ตึกซัมจี-กิล (Ssamzie-gil)
        ตึก Ssamzie-gil เปิดที่ตลาด Insa-Dong ครั้งแรกในปี ค.ศ.2004 มี 4 ชั้น ภายในตึกมีตั้งแต่แกลลอรี่แสดงงานศิลปะ งานฝีมือ ร้านอาหาร ภัตตาคาร ร้านเครื่องปั้นดินเผาเซรามิก ร้านเครื่องเขียน เสื้อผ้า รวมถึงเครื่องแต่งกายอื่นๆ ก็หาได้ไม่ยากจากตึกนี้ (มีดูดวงด้วยแหละ) หรือจะไปเดินชิลล์ดื่มด่ำบรรยากาศที่ชั้น 4 ที่เป็นสวนลอยฟ้าก็โอเคดีเหมือนกัน ..
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2559

เตรียมพร้อม | ตะลุยกรุงโซล (1)

เตรียมพร้อม | ตะลุยกรุงโซล (1)
       เย่เฮ้! กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ หลังจากหนีไปเที่ยวช่วงปีใหม่มา ^^ วันนี้เรามาเตรียมความพร้อม หาความรู้แน่นๆเกี่ยวกับที่เที่ยวในกรุงโซล เอ๊ะๆ ไม่ต้องสงสัยนะว่าทำไมมี (1) ก็เพราะว่ามันจะมีภาคต่อมาอีกเยอะเลยค่ะ ไม่งงเนอะ ในตอนนี้เราจะพามาตะลุยย่านพระราชวังเคียงบกนะคะ ป๊ะ! ลุย ..


ย่านพระราชวังเคียงบก จุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ :)
       ในย่านพระราชัวงเคียงบกนี้ถือว่าเป็น Landmark ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงโซลกันเลยทีเดียว เพราะว่าเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายๆอย่าง ไหนๆใครมาถึงโซลแล้วห้ามพลาดเลย ต้องมาให้ได้! ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะจ๊ะ ..

พระราชวังเคียงบก (Gyeongbok Palace)
        พระราชวังเก่าแก่ที่สุดและถือเป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์โซซอน สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 พระราชวังเคียงบกกุงนับว่าเป็นพระราชวังที่สวยงามและโดดเด่นเป็นสง่าที่สุดก็ว่าได้ เมื่อเทียบกับพระราชวังทั้งหมดที่สร้างขึ้นในราชวงศ์นี้ ภายในมีการแสดงโชว์การเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

บลูเฮาส์ (Blue House)
        บลูเฮาส์หรือทำเนียบประธานธิบดีของเกาหลีใต้ มีความโดดเด่นที่หลังคาสีฟ่าอนทั้งหลังและยังตั้งอยู่ตามหลักฮวงจุ้ยที่ดี โดยมีฉากหลังเป็นเขาพูกักซานตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่นั่นเอง ตัวอาคารด้านในจะเป็นสถาปัตยกรรมเกาหลีผสมกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ..
        หากใครอยากไปเห็นภาพดอกมูกุงฮวา (ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลีใต้) บานสะพรั่งตลอดสองข้างทางก็ต้องไปช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม พร้อมเดินชมสวนนกจิวอน (สวนดอกไม้ของประธานบดี) ที่ประธานบดีของเกาหลีจะปลูกต้นไม้ๆว้ที่นี่คนละ 1 ต้น และมีต้นไม้เก่าแก่อายุกว่า 300 ปีที่สวนนี้ด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

จตุรัสควางฮวามุน (Gwanghwamun Plaza)
        เป็นลานกว้างกลางถนนเซจงโร (Sejong-ro) ก่อนถึงประตูควางฮวามุนหน้าพระราชวังเคียงบก ที่นี่นับเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอีกที่เลยก็ว่าได้ กลางจตุรัสมีพระบรามราชานุสาวรีย์ของพระเจ้าเซจงตั้งตระหง่านอยู่ในทิศหันหลังให้ประตูเมือง เนื่องจากจัตุรัสอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าหลังของพระราชวังเคียงบก ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมแวะไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตอีกจุดด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

อนุสาวรีย์แม่ทัพลีซุนซิน (Statue of Admari Yi Sun-shin)
        ภายในบริเวณจตุรัสควางฮวามุน ไม่ไกลจากพระบรมนุสาวรีย์ของพระเข้าเซจง มีอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์อีก 1 จุดให้ไปเยี่ยมชมนั่นคือ อนุสาวรีย์แม่ทัพลีซุนซิน ซึ่งเป็นแม่ทัพเรือเกาหลีที่นำกองทัพเรือสู้รบชนะ กองทัพเรือญี่ปุ่นและยังสร้างวีรกรรมอันกล้าหาญอีกหลายครั้งจนได้รับการยกย่องเปรียบเป็นวีรบุรุษแห่งกองทัพเรือของราชวงศ์โซซอน รอบๆอนุสาวรีย์ฯ มีการตกปต่งด้วยกระถางขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้หลากหลายสีและในแต่ละวันก็จะมีช่วงเวลาที่มีการเปิดน้ำพุสูงกว่า 20 เมตรเป็นแนวยาวทั้ง 2 ข้างรอบๆฐานอนุสาวรีย์ด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

หมู่บ้านบุกชน (Bikchon Hanok Village)
        ชุมชนอันเป็นที่อยู่ของชนชั้นสูงในสมัยโซซอน บ้านเรือนมีลักษณะเป็นแบบเกาหลีโบราณหรือที่เรียกว่า ฮันอก ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ปัจจุบันหมู่บ้านเหล่านี้จึงยังมีให้เห็นอยู่หลายแห่งในเกาหลี ในกรุงโซลเองก็มีชุมชนฮันอกขนาดใหญ่อย่างหมู่บ้านบุกชน ฮันอก
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ศูนย์วัฒนธรรมบุกชน (Bukchon Traditional Culture Center)
        ศูนย์วัฒนธรรมบุกชน ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านบุกชน ฮันอก แต่เดิมคือบ้านของเสนาบดีในสมัยโซซอน ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงให้เป็นศูนย์วัฒนธรรมฯ ภายในเรือนไม้แบบเกาหลีที่ประกอบไปด้วยหลายส่วน ทั้งอาคารหลักของบ้านและส่วนอื่นๆ ที่จะแสดงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชม
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

แกลลอรี่ใต้ดิน (Seoul Metro Art Center)
        แกลลอรี่ใต้ดินที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะหลายแขนง เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการหมุนเวียนแสดงผลงานของศิลปินหรือกลุ่มศิลปินให้ชมอยู่เป็นประจำอีกด้วย
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ช็อปปิ้งที่ Dongwha Duty Free Shop
        นอกจากการช็อปปิ้งตามตลาดต่างๆแล้ว ใครที่ชอบสินค้าแบรนด์เนมทั้งหลายก็คงไม่พลาดที่จะไปเดินที่ Dongwha Duty Free ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งรวร้านค้าปลอดภาษีที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงโซล โดยมีสินค้าในเลือกมากกว่า 250 แบรนด์เลยทีเดียว
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .


วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เตรียมพร้อม | ตะลอนเที่ยวเกาหลี EP.2

เตรียมพร้อม | ตะลอนเที่ยวเกาหลี EP.2
       ยู้ฮูวว.. จากภาคแรกที่เราเขียนไปเมื่อครั้งก่อนนั้น ยังๆ ยังไม่จบนะคะ วันนี้เลยจะพามารู้จักกันอีกเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปที่ควรรู้ ไม่ว่าเป็นการเตรียมพาสปอร์ต เรื่องเงิน หรือจะเป็นเรื่องการช็อปปิ้ง เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อยากรู้แล้วสิ มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ ..

เรื่องทั่วไปที่ควรรู้
พาสปอร์ต ต้องมีอายุการใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน และพักอยู่ได้สูงสุดเป็นเวลา 90 วัน จากความสัมพันธ์ที่ดีของเกาหลีใต้และประเทศไทย ทำให้คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าในการเข้าประเทศ ดังนั้นการขออนุญาตให้เข้าประเทศขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ตม.เกาหลี

ความต่างของเวลา เวลาของเกาหลีจะเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง

ระยะเวลาในการบิน จากประเทศไทยมุ่งตรงสู่เกาหลีขาไปใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ขากลับจะนานกว่าขาไป ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะบินทวนกระแสลม

กระเป๋าเดินทาง โรงแรมที่พักในเกาหลี ส่วนมากจะไม่มีพนักงานบริการยกกระเป๋า เราต้องยกกระเป๋าไปที่ห้องด้วยตัวเอง

กระแสไฟฟ้า เกาหลีใช้ไฟฟ้า 220 โวลต์เหมือนเมืองไทย แต่เป็นปลั๊กสองขาแบบกลมหัวเล็ก ถ้าจะเสียบอุปกรณ์หลายอย่าง แนะนำให้เตรียมปลั๊กแบบเป็นแผงไปด้วย

ธรรมเนียมการทิป ถ้าเป็นพวกร้านอาหารจะไม่นินมทิป เนื่องจากบวกเซอร์วิสชาร์จไปแล้ว แต่ถ้าเป็นบริการจากมัคคุเทศก์ หรือคนขับรถที่เช่าสำหรับท่องเที่ยวก็สามารถให้เพิ่มได้ โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันต่อคน

ห้องน้ำ ที่เกาหลีมีอยู่ทั่วไปตามแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า สวนสาธารณะ อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านค้า หรือภัตตาคารต่างๆ ซึ่งต้องยกนิ้วให้กับความสะดวกและสะอาดของห้องน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศเกาหลี ที่สำคัญใช้ได้ฟรีไม่เสียตังค์

เรื่องเงิน เงิน
สกุลเงินที่ใช้ เกาหลีใช้เงินสกุล วอน (WON) เงินวอนเป็นเหรียญมีราคา 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 วอน ส่วนธนบัตรมีราคา 1,000 5,000 10,000 และ 50,000 วอน สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้ที่ธนาคาร และร้านแลกเงินทั่วไป อัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความผันผวนของสภาวะการตลาด เช่น 1,000 วอน = 28 บาท (ณ วันที่ 14 มีนาคม 2555)

แหล่งแลกเงิน แลกได้ตามธนาคารต่างๆ โดยอัตราก็จะแตกต่างกันไป ซึ่งอาจดูจากเว็บหรือโทรสอบถามได้ 

Tip&Trick ช้อปปิ้งที่เกาหลี


ใช้บัตรเครดิต ได้ทั้งบัตรวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ส่วนใหญ่ใช้ได้กับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า โรงแรม ร้านอาหาร เกือบทุกที่ (อันนี้สไหรับคนที่ติดหรูนิดนึง) รวมถึงการดูโชว์ต่างๆด้วย โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนที่จะมาเก็บเราทีหลังตามแต่ธนาคารเจ้าของบัตร

กดเงินจากเครื่องบริการเงินด่วน (ATM) ถ้าช็อปเพลินจนเงินที่เตรียมมาหมด ก็ใช้บริการตู้ ATM ได้ไม่ยาก
โดยเลือกตู้ที่มีเครื่องหมาย PLUS หรือ Global ATM แล้วเลือกเป็นเมนูภาษาอังกฤษก่อน เลือกประเภทบัตรหรือรายการที่จะทำเป็น Foreign  Card แล้วกดคำว่า Withdrawal (ถอนเงิน) จากนั้นกรอกจำนวนเงินที่ต้องการ จะกดได้ครั้งละไม่เกิน 5 แสนวอน (ประมาณ 17,000 บาท) โดยเสียค่าธรรมเนียมครั้งละประมาณ 100 บาท

การคืนภาษี ระบบภาษีของประเทศเกาหลีปกติแล้วสินค้าหรือบริการจะมีภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT อยู่ที่ 10% ซึ่งรวมอยู่ในราคาสินค้าหรือบริการแล้วเรียบร้อย ดังนั้นนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ไม่ได้พำนักในประเทศนานๆ จึงมีสิทธิขอคืนได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 วอน จากร้านที่มีสัญลักษณ์ "TAX FREE" (ตามรูป) แล้วแสดงพาสปอร์ตเพื่อให้ร้านออกแบบฟอร์มขอคืน VAT (Refund slip ซึ่งคุฯต้องกรอกข้อมูล Passport ราคา ร้านค้า วัน/เวลา ที่ซื้อ) ให้มาด้วย จากนั้นนำเอกสารที่กรอกไว้ไปทำเรืองขอเงินคืนหรือ Refund ที่สนามบิน ซึ่งคุณจะต้องเดินทางออกจากเกาหลีภายใน 3 เดือน หลังจากวันที่ซื้อสินค้าด้วย

- หากมีสินค้าที่จะ Refund ให้เผื่อเวลาที่สนามบินไว้มากหน่อย โดยก่อน Check-In ที่สนามบิน ถ้าจะโหลดสินค้านั้นพร้อมกระเป๋า ไม่ถือติดตัว ให้เช็คอินและรับ Boarding Pass พร้อมติด Tag กระเป๋าให้เรียบร้อยแต่ยังไม่ต้องโหลด ถ้าเป็นสนามบินนานาชาติอินชอนให้นำกระเป๋าสินค้า และ Refund Slip ไปที่เคาน์เตอร์ Oversize Baggage แล้วแสดงสินค้านั้นให้เจ้าหน้าที่ดู เพื่อประทับตราของศุลกากร (custom stamp) ก่อนจึงจะ VAT Refund คืนเงินได้ (เป็นเงินวอน) ซึ่งมีสองที่คือใกล้ Section D และใกล้ Section J แล้วค่อยโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์ Oversize Baggage ได้เลย
- ถ้าจะนำสินค้าขึ้นเครื่องไปด้วย เมื่อผ่าน ตม.ขาออกแล้วให้นำสินค้าไปแสดงและรับการประทับตราของศุลกากร (custom stamp) ที่เคาน์เตอร์ Customs Declaration ที่มีกระจายอยู่หลายแห่งก่อนทางเข้า gate ต่างๆ
- เมื่อได้ตราประทับแล้ว ทั้งกรณีโหลดและถือขึ้นเครื่อง ให้ไปขอรับเงินคืนที่ Cash Refund Office ตามยี่ห้อของผู้ให้บริการ refund (รายใดรายหนึ่ง ในสองรายคือ Global Blue หรือ Tax Free Korea แล้วแต่ร้านที่ขายออกสลิปของรายไหนมาก็ต้องไปขอคืนให้ตรงกัน) ซึ่งสำหรับสนามบินอินชอน จะอยู่ที่ประตู 28 (Gate 28) ชั้น 3 โดยอาจขอคืนเป็นเงินสดเข้าบัญชีบัตรเครดิต หรืออื่นๆ

โทรศัพท์ที่เกาหลี
โทรในพื้นที่ การใช้โทรศัพท์ที่เกาหลีก็จะคล้ายกับบ้านเรา โดยหากใช้มือถือโทรก็ให้กดรหัสเขต ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ได้เลย หรือถ้ามีโทรศัพท์บ้านหากต้องการโทรในเขตหรือเมืองเดียวกันก็เพียงแค่กดหมายเลขอย่างเดียว แต่หากโทรไปต่างพื้นที่หรือต่างเมือง ให้กดรหัสเขตตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ เหมือนโทรจากมือถือ

โทรศัพท์สาธารณะ โทรศัพท์สาธารณะในประเทศเกาหลีมี 3 ประเภท โทรศัพท์ประเภทใช้บัตรโทรศัพท์ โทรศัพท์ประเภทใช้บัตรและเหรียญ และประเภทที่ใช้บัตรประเภท IC โดยอัตราค่าโทรศัพท์ในพื้นที่ 3 นาที ราคา 70 วอน ซึ่งถ้าต้องการโทรหาคนที่รู้จักที่อยู่เกาหลี แนะนำให้ใช้โทรศัพท์สาธารณะจะดีที่สุด ใช้บัตร T-Money ได้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เตรียมพร้อม | ตะลอนเที่ยวเกาหลี

เตรียมพร้อม | ตะลอนเที่ยวเกาหลี


       อัน นยอง ฮา เซ โย ทักทายกันแบบเกาหลีเลยวันนี้ เพราะเราจะบินลัดฟ้าไปเที่ยวเกาหลี ก่อนที่เราจะเดินทางไปเกาหลีนั้น เราต้องเตรียมพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการหาตั๋ว หาที่พัก แหล่งช็อปปิ้ง ใน EP.1 นี้ Premiumworldtour จะพามาเตรียมความพร้อมกันก่อนออกเดินทาง ตามมาๆ ..

รู้จักเกาหลีกันก่อน ..
        สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) หรือเกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งในชื่อภาษาเกาหลีก็คือ แดฮันมินกุก เรียกสั้นๆว่า ฮันกุก หรือนัมฮัน โดยเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกมีความยาว 1,000 กิโลเมตร(612 ไมล์) และกว้าง 216 กิโลเมตร (134 ไมล์) พื้นที่ 70% ของประเทศที่เป็นเทิอกเขา มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ และมีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทะเลญี่ปุ่น (ทะเลตะวันออก) และช่องแคบเกาหลีกั้น

สัญลักษณ์ของประเทศเกาหลี
        ธงประจำชาติ : แทกึกกี้ เป็นชื่อเรียกธงประจำชาติของประเทศเกาหลีใต้ โดยมีจุดเด่นคือวงกลมสีแดงทิ่อยู่ตรงกลางเรียกว่า "แทกึก" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ต้นกำเนิดสรรพสิ่งในจักรวาลตามความเชื่อของลัทธิเต๋า ที่เชื่อว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีของคู่กันเสมอ ทั้งด้านลบ (หยิน) และด้านบวก (หยาง)" ซึ่งเมื่อนำพลังทั้งสองอย่างรวมกันก็จะเป็นหลักแห่งความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สมดุลยภาพ และการสมานสามัคคีอันไม่รู้จบ และล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์สี่อย่างที่อยู่แต่ละมุม คือ สวรรค์, โลก, ไฟ และน้ำ ส่วนพื้นสีขาว แทนความสะอาดบริสุทธิ์ และน้ำใจที่รักสงบของชาวเกาหลี


ดอกไม้ประจำชาติ
        ดอกมูกุงฮวา หรือ Rose Of Sharon เป็นดอกไม้ประจำชาติเกาหลี โดยคำว่า มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูกุง คือความเป็นอมตะ และฮวา มาจากภาษาจีนแปลว่าดอกไม้ จุดเด่นของดอกมูกุงฮวา คือ ทนต่อสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์ชาติเกาหลี ความมุ่งมั่น และความอดทนของชาวเกาหลีที่ฟันฟ่าและผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้นั่นเอง ดอกมูกุงฮวาจะบานสะพรั่งให้ได้ชมกันประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี



ภาษา
        ภาษาเกาหลี เป็นภาษราชการและภาษาพูดที่ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ใบประเทศเกาหลีใต้ โดยมีสำเนียงท้องถิ่นมากมายแต่ก็ไม่ต่างกันมาก ยกเว้นสำเนียงท้องถิ่นบนเกาะเชจูที่มีความแตกต่างค่อนข้างมาก โดยสำเนียงที่ใช้ในกรุงโซลนับเป็นสำเนียงทางการของเกาหลี


ชุดประจำชาติ
       ชุดฮันบกเป็นเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติของเกาหลีที่สวมใส่กันมาเป็นพันๆปีโดยฮัน หมายถึงชาวเกาหลี (ชาวฮั่น)ส่วนบก หมายถึงชุดหรือเสื้อผ้า เมื่อรวมสองคำนี้เข้าด้วยกันจึงหมายถึง ชุดของชาวเกาหลีนั่นเอง
        โดยชุดฮันบกมีหลายแบบ แต่ละแบบก็จะเป็นการบ่งบอกชนชั้น ศักดินา รวมถึงยุคสมัยและฤดูกาลอีกด้วย ส่วนใหญ่ชุดฮันบกที่คุ้นตาก็จะเป็นช่วงสมัยราชวงศ์ โดยชุดฮันบกของผู้หญิงจะสวมซอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และชีมา (กระโปรง) ส่วนผู้ชายจะสวมชอโกรี (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และพาจิ (กางเกงขายาว)


วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

8 สถานที่เที่ยวหน้าหนาว นอนกางเต็นท์สุดฟิน

8 สถานที่เที่ยวหน้าหนาว นอนกางเต็นท์สุดฟิน


       และแล้วหน้าหนาวที่รอคอยก็มาถึง ใครเป็นบ้างคะ? หน้าหนาวทีไรก็นอนเหงาอยู่บ้านตลอดๆ อยากไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง นี่เลย.. มาเที่ยวไปพร้อมกับเราดีกว่า หน้าหนาวแบบนี้ต้องไปนอนกางเต็นท์รับบรรยากาศธรรมชาติสุดๆ เก็บกระเป๋า แล้วตาม Premiumworldtour มาเลยจ้า ..


1. ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน


          ปางอุ๋ง มีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกันภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ ปางอุ๋ง กลายเป็นสถานที่ท่องเี่ที่ยวมาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสนและไอหมอกบางๆ ยิ่งเ็ป็นภาพที่สร้างความประทับใจแบบสุดๆ
ที่ตั้ง : บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : บ้านรวมไทย โทรศัพท์ 0 5361 1244 


2.ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์


          ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสำรวจท่องเที่ยวได้ไม่นานนัก แต่ก็สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ไปเยือนได้เป็นอย่างมาก จนกลาย 1 ใน UNSEEN THAILAND ที่คุณไม่ควรพลาดการไปเยือน ด้วยระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิที่หนาวเย็นทั้งปีบนยอดภู และไร่กะหล่ำปลี ที่กว้างใหญ่สุดลูกตา กินบริเวณยอดภูหลายลูก
ที่ตั้ง : บริเวณหมู่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  : องค์การบริหารส่วนตำบลวังบาล โทรศัพท์ 0 5674 7532, 0 5691 7110


3. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา


          ด้วยสภาพป่าที่รกทึบและได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ทำให้ที่ "เขาใหญ่" เกิดฝนตกชุกตามฤดูกาล อากาศไม่ร้อนจัดและหนาวจัดจนเกินไป จัดอยู่ในประเภทเย็นสบายตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นที่ซู้ดดด... (ถูกต้องนะคร้าบ!!) ยิ่งในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคม กุมภาพันธ์ คนจะนิยมไปเที่ยวที่นี่กันมาก เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้ว บรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่ยังโรแมนติกซะด้วย... (เอาล่ะ โอกาสนี้แหละที่จะได้บอกรักคนที่เราแอบชอบมานานซักที)
ที่ตั้ง : ตู้ปณ.9 อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โทรศัพท์ 08 6092 6529, 08 6092 6531, 0 3735 6033, 0 4424 9305  

4. ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่


          ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย เดิมที่บริเวณนี้ชาวบ้านเรียกว่า "กิ่วเสือ" ซึ่งเป็นป่ารกร้าง ต่อมาชาวบ้านได้เข้ามาแผ้วถางและปลูกผิ่น จนในท้ายที่สุดโครงการหลวงได้มาขอซื้อพื้นที่เข้าโครงการหลวงหนองหอย และได้มีการพัฒนาปรับปรุงบริเวณม่อนแจ่มให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะในลักษณะของแคมปิ้งรีสอร์ท ซึ่งภายในมีม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท ที่เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกสวยในยามเช้า สามารถมากางเต็นท์พักแรม พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์โดยรอบของที่นี่ได้
 
ที่ตั้ง : ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ตำบลแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ม่อนแจ่ม แคมปิ้ง รีสอร์ท โทรศัพท์ 08 1806 3993 หรือ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการหลวง โทรศัพท์ 0 5381 0765 ต่อ 108


5. ภูทอก จ.เลย


          ถ้าหากมองในระยะไกลเบื้องหน้าจะเห็นวิวทะเลหมอกขาวโพลนตัดกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ซึ่งนอกจากวิวของทะเลหมอกแล้วยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิว 360 องศา แบบพาโนราม่าของเมืองเชียงคานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแก่งคุดคู้และลำน้ำโขง ด้วยภูแห่งนี้มีลักษณะเป็นภูเขาสูง ทำให้ทัศนียภาพโดยรอบบริเวณภูสวยบริบูรณ์ด้วยธรรมชาติสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาการชมทะเลหมอก คือในช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาว ที่ให้คุณได้สัมผัสอากาศหนาวได้อีกด้วย

ที่ตั้ง : อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันกับแก่งคุดคู้ ห่างจากตัวอำเภอเชียงคานประมาณ 3 กิโลเมตร 
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : เทศบาลตำบลเชียงคาน โทรศัพท์ 0 4282 2288


6. อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบูรณ์


          นับเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ครอบคลุมท้องที่อำเภอแก่งกระจาน อำเภอหนองหญ้าปล้อง อำเภอท่ายาง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายในมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี และมีลักษณะเด่นทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ ทะเลสาบ น้ำตก ถ้ำ รวมถึงหน้าผาที่สวยงาม โดยทางอุทยานฯ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ไว้บริการ ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 600 คน ท่ามกลางบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำสุดโรแมนติก อีกทั้งยังสามารถล่องเรือชมทิวทัศน์ พายเรือคายัก เรือแคนู พร้อมมีไฟฟ้าส่องสว่างให้อีกด้วย

ที่ตั้ง : ตำบลแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทรศัพท์ 0 3246 7326, 08 6166 2991, 0 3245 9293, 0 3243 3658  


7. อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี


          อุทยานแห่งชาติเอราวัณมีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยภายในมีน้ำตกเอราวัณ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศ และด้วยอาณาเขตอันกว้างขวางประกอบไปด้วยภูเขาสูงตระหง่าน หน้าผา น้ำตก ถ้ำ และทิวทัศน์ที่งดงาม อีกทั้งยังมีการคมนาคมที่สะดวก ทำให้อุทยานฯ แห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาเสพสุขกับธรรมชาติในป่าใหญ่ ซึ่งท่านใดที่รักธรรมชาติและอยากนอนดูดาวท่ามกลางลมหนาวที่นี่เขาก็มีเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการด้วย

 
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี 71250
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ โทรศัพท์ 0 3457 4222, 0 3457 4234   


8. ดอยเสมอดาว จ.น่าน


          ดอยเสมอดาว หนึ่งในจุดชมวิวที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อน นอนดูดาว สัมผัสไอหนาวท่ามกลางธรรมชาติโอบล้อม โดยทางอุทยานฯ มีบริการพื้นที่กางเต็นท์ที่สามารถรองรับได้ประมาณ 80-100 เต็นท์/คืน หรือ 160-200 คน/คืน พร้อมห้องน้ำ-ห้องสุขาแยกชาย-หญิง และคนพิการ จำนวน 26 ห้อง นักท่องเที่ยวสามารถนำเต็นท์มากางเองได้ หรือติดต่อขอใช้บริการเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติก็ได้ไม่ว่ากัน โดยมีค่าบริการอยู่หลายอัตราขึ้นอยู่กับชนิด ขนาดของเต็นท์ และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ
 
ที่ตั้ง : ตู้ ปณ.14 อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติศรีน่าน โทรศัพท์ 09 3242 2914, 0 5473 1714