เที่ยววันฝนพรำ 10 ที่เที่ยวหน้าฝนสุดฮิต!
สำหรับใครที่กำลังมองหา "ที่เที่ยวหน้าฝน" ตามมาทางนี้เลยจ้า
เพราะ Premiumworldtour
ได้เอาที่เที่ยวหน้าฝนสุดฮิตจากทั่วประเทศมาแนะนำ
งานนี้รับรองว่าสายฝนไม่สามารถทำให้คุณนั่งเหงาหงอยอยู่แต่ในบ้านแน่นอน
ว่าแต่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับความชุ่มฉ่ำที่ไหนบ้างนั้น ลองไปชมกันเลย
1. ทุ่งดอกกระเจียว จ.ชัยภูมิ
ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับนักเดินทางที่ในทุกปีจะต้องเดินทางเที่ยวชมความสวยงามของ
“ทุ่งดอกกระเจียว” ในเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ โดยแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวของจังหวัดชัยภูมิ
ประกอบไปด้วย 2 สถานที่ ได้แก่
อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
ถือเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่เมื่อถึงช่วงฤดูฝน
ดอกกระเจียวป่าหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกขึ้นมาอย่างหนาแน่น
บริเวณทุ่งกว้างที่ถูกปกคลุมด้วย ไอหมอกในยามเช้าอีกด้วย และอุทยานแห่งชาติไทรทอง
อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ สำหรับพื้นที่สำหรับชมทุ่งดอกกระเจียวป่า
ของที่นี่จะอยู่บริเวณน้ำตกชวนชม ซึ่งมีการจัดให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2
กิโลเมตร น้ำตกมีความสูง 20 เมตร
บริเวณโดยรอบมีต้นไม้และทุ่งบัวสวรรค์หรือทุ่งดอกกระเจียว ที่มีทั้งสีชมพูและสีขาว
2. ทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์
ทุ่งแสลงหลวง
มีพื้นที่ 789,000 ไร่
ตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์
ถือเป็นแหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์
พร้อมด้วยความแตกต่างแห่งพืชพรรณที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก นอกจากนี้
ยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหลากหลายทางชีวภาพ
โดยมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน
เป็นต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสามารถขอข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติ
รวมทั้งใช้บริการที่พักและกางเต็นท์พักแรมได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกต่าง ๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก
เช่น น้ำตกแก่งโสภา, น้ำตกวังนกแอ่น ส่วนพื้นที่ทางด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยานฯ
ในเขตอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่
ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งพญา ทุ่งโนนสน ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเดินป่าและกางเต็นท์พักแรม
สามารถติดต่อได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ สล.8 (หน่วยฯ
หนองแม่นา)
3. อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของทิวทัศน์
ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ สำหรับ "ทองผาภูมิ" อำเภอสุดแดนตะวันตก
ขอบชายแดนไทย-พม่า เพราะสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน
ทำให้มีความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้า
อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง เช่น เขื่อนเขาแหลม
(เขื่อนวชิราลงกรณ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม, เขาช้างเผือก ที่มีความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล
เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มองได้รอบทิศทาง 360
องศา, เหมืองปิล็อก เหมืองขนาดใหญ่ที่อดีตเคยทำรายได้หลักและเป็นลมหายใจของชีวิตคนกาญจนบุรี,
บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เงียบสงบ
ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร
ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก และดอยต่องปะเล จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
โดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น จะสวยงามและได้บรรยากาศที่สุด
4. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก
สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบกิจกรรมท้าทาย
ล่องแก่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็กที่สนุกสนาน
ตื่นเต้น และท้าทาย ที่เริ่มต้นการล่องเรือยางจากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์
ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง
ซึ่งความพิเศษของการล่องแก่งนี้จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งระดับ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับ
จนกระทั่งถึงระดับสูงสุด คือ ระดับ 5 ในช่วงท้าย
ซึ่งลำน้ำจะขนานไปกับทางหลวง หมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก)
รวมระยะทางในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่าน 18
แก่ง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
แล้วแต่ระดับน้ำ และความยากง่าย
5. แก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี
แก่งหินเพิง
ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่
ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นชั้นหินทราย อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่
9 (ใสใหญ่) โดยภายในอำเภอนาดี
เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทายและสนุกสนาน
ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลากล้นแก่ง
และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งผจญภัยเป็นอย่างมาก
สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งกินต่าง ๆ ได้แก่
แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน,
แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า
ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8-10 คน ล่องไปตามลำน้ำใสใหญ่
ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ
30 นาที
นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิงได้
6. ล่องแพ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดผจญภัย
ที่สร้างประสบการณ์สุดมันส์ของการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเชิงอนุรักษ์ได้เป็นอย่างดี
นั่นก็คือ การล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ บริเวณแม่น้ำพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ
จังหวัดชุมพร เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงความงดงามทางธรรมชาติ
และลิ้มรสอร่อยกับเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง
ซึ่งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
ที่เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของชุมชนลุ่มน้ำพะโต๊ะ
นอกจากนั้นสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวกับกลุ่มโฮมสเตย์บ้านคลองเรือ
ซึ่งมีกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชนที่น่าสนใจ อาทิ
เดินป่าศึกษาธรรมชาติเขานมสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่า ดินแดนแห่งสามทะเล ได้แก่
กลางคืนแลทะเลดาว ตื่นเช้าแลทะเลหมอก แดดออกแลทะเลป่า นอกจากนี้
ยังมีกิจกรรมชมสวนผลไม้ ไร่กาแฟ ล่องแพ ดูนกอีกด้วย
7. ภูสอยดาว
จังหวัดอุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอน้ำปาด
จังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว
บริเวณที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาภูสอยดาว สูงถึง 2,102 เมตร
จากระดับทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สภาพป่าส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพิชิตยอดภูสอยดาว
เพราะด้วยเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งในระหว่างเดินทางสามารถชมความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ
น้ำตก และดอกไม้ป่าชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย
โดยการเดินทางขึ้นไปสู่ยอดภูสอยดาวอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักเดินเท้าหลาย
ๆ คน ด้วยเนินที่สูงชัน เส้นทางแคบ คดเคี้ยว ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ผสมกับสายฝน
หยาดน้ำค้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ของการเดินทางเป็นอย่างมาก
ทำให้นักเดินทางหลายคนเลือกที่จะดินทางไปพิชิตยอดดอย
เพื่อตามเก็บภาพความงามอันอัศจรรย์ของทุ่งดอกหงอนนาค ราชินีแห่งดอกไม้
ที่ผลิดอกบานสะพรั่งห่มคลุมทั่วทุกทุ่งกว้าง รวมไปถึง เอื้องหมายนา ลิลลี่ป่า
ลิ้นมังกร กระดุมเงิน ว่านไก่แดง และผืนหมกที่ปกคลุมป่าสนสามใบ
เรียงรายไปไกลสุดสายตา
8. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
อำเภอสวนผึ้ง
ไม่ใช่เพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้นที่สามารถไปเที่ยวได้
เพราะที่นี่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในทุกช่วง
โดยเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีภูมิทัศน์สวยงามท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนบริเวณชายแดนแถบตะวันตกของประเทศ
สวนผึ้งสมัยก่อนเป็นแหล่งทำแร่ แต่ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทหลากรูปแบบ
ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ ที่สวนผึ้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าแวะชมมากมาย
เช่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านภโวทัย ที่
เป็นลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณ สิ่งของเครื่องใช้ในอดีต, บ้านหอมเทียน, อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง และตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto ฯลฯ
9. เขื่อนรัชชประภา
จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภา
ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน
ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์
สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร
บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม
อีกทั้งภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนยังมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ
ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน
ซึ่งในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักให้เลือกมากมาย
โดยจะยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น พายเรือแคนู, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ
ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร
โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม
การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
10. วังน้ำเขียว
จังหวัดนครราชสีมา
สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน
นี่คือฉายาที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามให้กับวังน้ำเขียวเมื่อได้มาเยือน
เพราะที่นี่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์
เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก
เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและสภาพอากาศที่เหมาะสมแก่การเจริญของพรรณไม้ที่หลากหลาย
มีน้ำตกที่สวยงาม และจุดชมวิว
ที่สามารถมองเห็นผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานที่กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของผืนป่าดงพญาไฟในอดีต
อีกทั้งยังมีผลไม้นานาชนิดให้เลือกสรร รวมทั้งยังมีสวนไม้ดอก-ไม้ประดับ ที่สวยงาม
การปลูกผักปลอดสารพิษ และ การเพาะเห็ดหอม
ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่อีกด้วยอีกทั้งอากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวเย็นเป็นพิเศษ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น
เขาแผงม้า ที่มีอากาศเย็นสบาย, กิจกรรมชมแปลงปลูกดอกหน้าวัวหลายสายพันธุ์จากต่างประเทศ
ที่มีให้ชมทั้งปี, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา
เห็นวิวทิวทัศน์ของแนวสันเขายาวอย่างสวยงาม, ชมสวนผักปลอดสารพิษลุงไกร
ที่เป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ วังน้ำเขียว
เน้นการปลูกผักสลัด ผักกาดหอมเป็นส่วนใหญ่ มีหลายหลายสายพันธุ์ ผักจากสวนลุงไกร สด
สะอาด อร่อย ผักสดคุณภาพสูง, วังน้ำเขียวฟาร์ม
เป็นศูนย์เพาะพันธุ์เห็ดเมืองหนาว เปิดให้เยี่ยมชมการเพาะเห็ดแบบออร์แกนิก
ไร้สารพิษ และยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดอีกมากมายให้ซื้อกลับบ้าน
ติดตามเราได้ที่
Facebook Page : Premium World Tour
Website : http://www.premiumworldtour.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น