ตะลุยเที่ยวอิตาลี
สวัสดีค่ะ
Premiumworldtour จะพามาลุยเที่ยวในอิตาลี
ว่าจะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอะไรอยู่บ้าง ตามเรามาดูกันเลย ..
มหาวิหารแม่พระองค์ใหญ่ (Santa Maria Maggiore)
โบส์ซานตามาเรีย มัจจอเร หนึ่งในโบสถ์ที่สร้างถวายให้แม่พระมาเรียซึ่งมีมากกว่าที่สร้างให้กับนักบุญอื่นในกรุงโร
สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ได้แก่
ยอดโดมคู่เป็นศิลปะบารอก กระเบื้องปูพื้นแบบคอสมาเตสก์
ที่นั่งและภาพโมเสกประดับตกแต่งแบบไบเซนไทน์ เพดานที่ตกแต่งอย่าอลังการด้วยทองคำที่คริสโตเฟอร์
โคลัมบัสนำมาจากอเมริกาเป็นศิลปะยุคเรอเนสซองซ์ แต่ทุกอย่างก็ดูเข้ากันได้ดีเลย ..
โรงละครโอเปร่า (Teatro
dell' Opera)
อิตาลีได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งคีตศิลป์
ในเมืองต่างๆจึงมีโอเปร่าเฮ้าส์อยู่หลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดก็คือ ลา
สกาลาในเมืองเมืองมิลาน
ฟลอเรนซ์ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดศิลปะแขนงนี้ก็เฟื่องฟูรวมทั้งกรุงโรมนี้ด้วย
โรงละครส่วนใหญ่ในอิตาลีตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค
หรือรอกโคโค ตกแต่งภายในด้วยงานปูนปั้นหุ้มทอง มีที่นั่งลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ
รอบเวที นอกจากโรงละครแห่งนี้แล้ว ในโรมยังมีโรงละครแห่งชาติอีกด้วย
น้ำพุเทรวี (Fontana
di Trevi)
น้ำพุที่โด่งดังที่สุดแห่งกรุงโรม
ความสวยงามก็จัดว่าไม่เป็นสองรองใคร
นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกรุงโรมปทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ยลโฉมสักครั้ง
จึงไม่แปลกที่บริเวณรอบๆน้ำพุจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนนานาชาติซึ่งต่างก็อยากถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
น้ำพุอันอลังการนี้ไม่เหมือนน้ำพุอื่นๆ
คือมีฉากหลังสูงใหญ่เหมือนเวทีละคร ตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อน
ตรงกลางมีรูปเทพเจ้าเบปจูนขนาบข้างด้วยเทพไตรตันที่กำลังปราบม้าพยศ
มีน้ำไหลเป็นแพออกมาเหมือนน้ำตกที่ถูกส่งมาจากท่อน้ำตั้งแต่สมัยโรมัน
บันไดสเปน (Piazza
di Spagna)
ปิอัซซ่า ดิ
สปัญญา และ บันไดสเปน (Spanish Steps) เป็นอีกบ่านหนึ่งที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนไม่แพ้ที่น้ำพุเทรวี่
จัตุรัสแห่งนี้ตั้งชื่อตามสถานทูตสเปนประจำกรุงวาติกัน ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ในปาลัซโซ
ติ สปัญญา
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เมื่อไปถึงครั้งแรกจะล้อมวงดู
อ่างน้ำพุบาร์คัสเซีย (Fontana Della Baecaccia) รูปร่างคล้ายเรือกำลังรั่ว
มีน้ำพุพุ่งออกจากปากดวงอาทิตย์ลงไปสู่อ่างน้ำเบื้องล่าง
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็จะเห็นขั้นบันไดทอดขึ้นสู่เนินเขาด้านบนหลายชั้น
มีเสาโอเบลิสก์ชัลลัชเชียน ตั้งโดเด่นอยู่ด้านหน้าโบสถ์ตรินิตะ เด มอนติ
ซึ่งเป็นที่มาของชื่อในภาษา อิตาลีว่า Scalinata della Trinita dei Montri
ถนนแฟชั่นเวียคอนด็อตติ (Via Condotti)
เวียคอนค็อตติทอดตรงจากบันไดสเปนไปบรรจบกับเวียร์คอร์โซ
ถนนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งแฟชั่นหรูหราที่สุดในกรุงโรม รวมทั้งถนนเส้นเล็กๆ
อีกหลายสายที่เชื่อมโยงถึงกันได้ เป็นที่ตั้งร้านค้าแบรนด์เนมมีระดับทั้งยี่ห้ออิตาลีและชาติอื่น
เวียเดลคอร์โซ (Via
del Corso)
ถนนสายยาวที่ตัดฉากกับเวียคอนด็อตติคือ
เวียเดลคอร์โซ เป็นถนนสายช็อปปิ้งเช่นเดียวกัน เพียงแต่ลดระดับความหรูลงมาหน่อย
สามารถหาซื้อสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นยี่ห้อท้องถิ่นที่ราคาไม่แพงมากนัก
ตลอดจนสินค้าอย่างอื่น เช่น นาฬิกา รองเท้า กระเป๋า ดีวีดี ร้านขายยา เป็นต้น
ปิอัซซ่า เดล โปโปโล (Piazza
del Popolo)
เวียคอร์โซทางด้านเหนือจะไปสิ้นสุดที่
ปิอัซซ่า เดล โปโปโล จัตุรัสที่มีบริเวณกว้างขวาง
มองเห็นเสาโอเบลิสก์ฟลามิเนียนตั้งโดดเด่นอยู่กลางจัตุรัส
พื้นที่เดิมเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูก่อนที่พระสันตะปาปาซิกุตที่ 5 จะรับสั่งให้
โดเมนิโก ฟอนตานา ปรับปรุงให้เป็นปิอัซซ่าที่หรูหรารูปวงรีเมื่อปี 1589
โดยการประดับด้วยเสาโอเบลิสก์ของอียิปต์อายุเก่าแก่กว่า 3,200 ปี ซึ่งจักรพรรดิออกัสตัสนำมาจากเฮลีโอโปลิส เป็นเสาที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์ราเมเซสที่
2 แห่งอียิปต์
จึงนับว่าเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สำคัญและเก่าแก่ที่สุดเสาหนึ่งในกรุงโรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น